พัฒนาสู่ความยั่งยืน

นโยบายการรักษาความลับการรักษาข้อมูล และการใช้ข้อมูลภายใน

คณะกรรมการบริษัทได้กำกับดูแลให้บริษัทฯ มีการเปิดเผยข้อมูล รวมถึงการจัดการข้อมูลลับที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมต่างๆในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งยังมิได้เปิดเผยต่อสาธารณะ หรือดำเนินการใดๆ ตลอดจนการรักษาความลับและข้อมูลของลูกค้า หรือ บริษัทฯ หรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับบริษัทฯ และการป้องกันข้อมูล เพื่อไม่ให้เกิดการรั่วไหลจนเกิดความเสียหายและกระทบต่อราคาหลักทรัพย์บริษัทฯ และผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยดูแลไม่ให้กรรมการ ผู้บริหาร และผู้ที่เกี่ยวข้อง นำข้อมูลภายในของบริษัทฯ ไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตน

แนวทางปฏิบัติ

  1. กำหนดนโยบายในการป้องกันมิให้กรรมการ ผู้บริหาร รวมถึงพนักงานที่อยู่ในหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำข้อมูลภายในไปใช้เพื่อหาผลประโยชน์ให้แก่ตนเองหรือผู้อื่นในทางมิชอบ ซึ่งถือเป็นการเอาเปรียบผู้ถือหุ้นอื่น โดยคณะกรรมการและผู้บริหารทุกคน ต้องเปิดเผยข้อมูลการมีส่วนได้ส่วนเสียของตนและผู้ที่เกี่ยวข้องต่อคณะกรรมการ รวมถึงการถือครองหลักทรัพย์ของบริษัทฯที่มีการเปลี่ยนแปลงในช่วง 1 เดือนก่อนการเปิดเผยงบการเงินต่อสาธารณชน โดยต้องรายงานการถือครองหลักทรัพย์ตามกฎหมาย และจัดส่งรายงานดังกล่าวให้แก่คณะกรรมการเป็นประจำ หรือแจ้งผ่านทางเลขานุการบริษัท เพื่อนำส่งรายงานดังกล่าว พร้อมทั้งเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณชนทราบในรายงานประจำปี 
  2. ให้ความรู้ ความเข้าใจ และทบทวนแก่กรรมการ และผู้บริหาร (รวมถึงคู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ) เกี่ยวกับการรายงานการถือครองหลักทรัพย์ และการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์ของบริษัทฯ ต่อ กลต. ตามมาตรา 59 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 โดยกำหนดให้แจ้งต่อเลขานุการบริษัททราบทุกครั้ง เพื่อแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องรับทราบต่อไป รวมทั้งมีการแจ้งบทลงโทษตามมาตรา 275 แห่งพ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ หากมีการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนด
  3. กรรมการ ผู้บริหาร และผู้ดำรงตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายขึ้นไป ที่ถือครองหลักทรัพย์ของบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องตามมาตรา 59 แห่ง พรบ.หลักทรัพย์ฯ จะต้องรายงานการถือครองหลักทรัพย์ของบริษัทฯ ภายใน 30 วันทำการหลังจากได้รับการแต่งตั้งฯ โดยกำหนดให้เลขานุการบริษัทรวบรวมและรายงานการถือครองหลักทรัพย์ต่อสำนักงาน กลต. ซึ่งเป็นไปตามที่ พรบ. หลักทรัพย์ฯ กำหนด และรายงานต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเพื่อรับทราบเป็นรายไตรมาส
  4. บริษัทฯ กำหนดนโยบายและมาตรการในการดูแล / ควบคุมการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และข้อมูลภายในของบริษัทฯ ให้มีความพร้อมใช้ของข้อมูล (availability) อยู่เสมอ โดยให้มีการเข้าถึงข้อมูลตามลำดับของตำแหน่งหน้าที่ และมีระบบป้องกันความเสียหายซึ่งอาจจะเกิดขึ้นจากการนำเทคโนโลยีสารสนเทศไปใช้ในทางมิชอบ หรือการเปลี่ยนแปลงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือ ใช้ประโยชน์จากข้อมูลลับที่มีความสำคัญและอาจส่งผลต่อราคาหลักทรัพย์ เพื่อป้องกันการแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตน รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง
  5. พนักงานทุกระดับต้องให้ความสำคัญในการรักษาสารสนเทศที่เป็นข้อมูลความลับของลูกค้า หรือบริษัทฯ หรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับบริษัทฯ อย่างจริงจังและสม่ำเสมอ โดยไม่มุ่งหวังในการแสวงหาผลประโยชน์ทางธุรกิจของบริษัทฯ ต่อตนเองและบุคคลที่เกี่ยวโยงกัน
  6. กำหนดให้สัญญาจ้างแรงงาน ข้อบังคับบริษัทเกี่ยวกับการทำงาน ข้อพึงปฏิบัติของพนักงานต่อบริษัทฯ ถือเป็นจริยธรรมของพนักงาน ในการระมัดระวังรักษาข้อมูลให้เป็นความลับ ไม่ใช้ตำแหน่งหน้าที่ในบริษัทฯ หรือนำข้อมูลภายในหรือสารสนเทศที่มีสาระสำคัญซึ่งได้รับระหว่างการปฏิบัติงานในบริษัทฯ ที่ยังไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณะ ไปแสวงหาประโยชน์ในทางมิชอบหรือเปิดเผยกับบุคคลภายนอกเพื่อประโยชน์ส่วนตนและผู้เกี่ยวข้อง หรือทำให้ประโยชน์ของบริษัทฯ ลดลง หรือกระทำการอันก่อให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์
  7. บริษัทฯ จะใช้บทลงโทษตามระเบียบของบริษัทฯ หากพบว่า ผู้บริหาร หรือพนักงาน หรือผู้ที่เกี่ยวข้องได้ใช้ข้อมูลภายในหรือมีความประพฤติที่ส่อไปในทางที่จะทำให้บริษัทฯ ได้รับความเสียหายหรือเสื่อมเสียชื่อเสียง